การเลือก GPS



สอด รับกับกระแสโลกร้อน และสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไทยขณะนี้ สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง จีพีเอส ที่อำนวยความสะดวกให้นักเดินทางผู้ใช้รถยนต์ทั้งหลาย ได้รู้เส้นทาง ไม่ว่าจะผสานมาในรูปแบบพีดีเอ โฟน หรือ แยกเป็นเนวิเกเตอร์ โดยการคำนวณระยะทางก่อนออกเดินทาง ทำให้ในปัจจุบันนี้ จีพีเอส เข้าไปมีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง จีพีเอสจะสามารถช่วยวางแผนการเดินทางได้เป็นอย่างดี ช่วยให้มีการประหยัดน้ำมัน พร้อมทั้งมีความปลอดภัย ลดระยะเวลาในการเดินทางเป็นอย่างดี

จนกระทั่งล่าสุด 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ อย่างบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้พร้อมใจทยอยส่ง จีพีเอส รุกตลาด สู่สายตาสาธารณชนตามลำดับ เมื่อเร็วๆ นี้

นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากสภาวะน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯมีแนวทางพัฒนาส่งเสริมอุปกรณ์ จีพีอาร์เอส GARMIN รุ่น nüvi 710 ภาษาไทย ที่ช่วยเป็นแผนที่นำทางในการเดินทางของผู้ใช้รถยนต์ อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง โดยมีฟังก์ชันใหม่ และคุณสมบัติเด่น คือความพร้อมใช้งานกับซอฟต์แวร์แผนที่ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีความละเอียด และแม่นยำสูง เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ในการค้นหาตำแหน่งได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปในการใช้งาน ทั้ง MP3,Audible book โปรแกรมคำนวณอัตราการแลกเปลี่ยน และอื่นๆที่มาตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์



ผจก.บ.อี เอสอาร์ไอฯ กล่าวต่อว่า จีพีเอสรุ่นดังกล่าวประกอบด้วยแผนที่ทั่วประเทศไทยจาก ESRI-TH ที่มี POI (Point of Interest) มากกว่า 400,000 จุดทั่วประเทศ อาทิ ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ศูนย์บริการต่างๆ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงแรม และยังมีหมายเลขโทรศัพท์ให้ด้วยกว่า 70,000 เลขหมาย โดยสามารถโทรออกได้ทันทีผ่านทาง Bluetooth ที่มีมาในเครื่องสอดคล้องกับการมีกฎหมายบังคับใช้ ในเรื่องห้ามใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถยนต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับค่ายรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย อาทิ โตโยต้า อีซูซุ และเซฟโรเลต ในการพัฒนาติดตั้งระบบเข้าไปในรถยนต์ ทั้งยังเป็นตัวช่วยผลักดันส่งเสริมการขายอีกวิธีหนึ่ง โดยแบ่งสัดส่วนรายได้เป็นบริษัทจัดจำหน่ายเอง 80% และร่วมมือกับทางค่ายรถยนต์ 20%

“เชื่อว่า ในอนาคต 5-10 ปีข้างหน้า สัดส่วน 50%ของจำนวนรถยนต์ในประเทศไทย จะต้องมีการพัฒนามาใช้ จีพีเอส เพื่อช่วยเป็นเครื่องนำทาง ขณะนี้ทางบริษัทฯพยายามการศึกษา และเผยแพร่ความรู้ในเรื่อง จีพีเอส กับประชาชนให้เพิ่มมากขึ้น” นายไกรรพ กล่าว




ด้าน นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทอัสซุสฯ เริ่มแนะนำ พีดีเอ โฟน เข้าสู่ตลาดประเทศไทยตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปี 2549 และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2550 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 20% สำหรับในปี 2551 คาดว่าจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 30% ประกอบกับความนิยมพีดีเอโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กก.ผจก.บ.อัส ซุส กล่าวว่า สำหรับ พี320 มินิ จีพีเอส พีดีเอ โฟน รุ่นล่าสุดมีรูปทรงและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบความทันสมัยควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ด้วยขนาดกะทัดรัด พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 6.1 Professional สามารถรองรับจีพีเอสในตัว (Built-in SiRF Star III Chip) นอกจากนี้ยังมี WiFi สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ต รวมถึงบลูทูธ ยูเอสบี อีกด้วย

ส่วน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางโดยใช้อุปกรณ์จีพีเอสมีมากขึ้น โดยปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากภาวะราคาน้ำมันในปัจจุบัน ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนหนึ่งตัดสินใจหันมาติดตั้งอุปกรณ์นำทางดังกล่าว เพื่อวางแผนการเดินทาง ทั้งนี้การเติบโตของยอดจำหน่ายของจีพีเอสในประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอัตราการใช้งานจีพีเอสเทียบกับ จำนวนรถยนต์ที่ใช้งานยังต่ำกว่า 0.5% แต่ในปี 2551 คาดว่าจะสูงขึ้นถึง 1.1-1.3% โดยนับจากจำนวนรถยนต์จดทะเบียนในปี 2551 ที่มีประมาณ 8 ล้านคัน มีผู้ใช้เครื่องจีพีเอสประมาณ 90,000 ถึง 120,000 เครื่อง





ลอง มาฟังความคิดเห็นของผู้ใช้งานกันบ้าง นายวรวิทย์ พิทักษ์บุตร เจ้าของเว็บมาสเตอร์พีดีเอโฟร์ไทยดอทคอม และผู้ใช้จีพีเอสมากว่า 3 ปี กล่าวว่า โดยหลักการแล้วจีพีเอสเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ส่วนใหญ่ใช้เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เมื่อไปเส้นทางอื่น หรือเปลี่ยนเส้นทาง แต่บางครั้งอาจมีข้อจำกัด เช่น ถ้าเป็นรุ่นแรกๆ จะมีปัญหาในการรับสัญญาณไม่ได้ เวลาอยู่ใต้ทางด่วน หรือมีเมฆบดบังบนท้องฟ้า เป็นต้น อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวจะถูกพัฒนาแก้ไขขึ้นในรุ่นใหม่ พร้อมทั้งเสียงและภาพด้วย นอกจากนี้ยังคาดว่าในอนาคตทิศทางการเติบโตของจีพีเอสจะสูงขึ้นเช่นเดียวกับ โทรศัพท์มือถือ และเป็นมากกว่าอุปกรณ์นำทาง

“ส่วนใหญ่เมื่อเราออกนอก เส้นทางจะเริ่มงง สำหรับคนไม่รู้จักเส้นทางจะช่วยได้มาก โดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างจังหวัด ถ้าเป็นเมื่อก่อนไปไม่ถูกจะโทรถามเพื่อน แต่เดี๋ยวนี้ขับรถอยู่จะใช้โทรศัพท์โทรหาเพื่อนก็ลำบาก เป็นการง่ายถ้าไป โดยที่เครื่องจะกำหนดทิศทางให้เราใหม่ แค่พิมพ์จุดหมายที่ต้องการแล้วกำหนดไป เครื่องก็คำนวณให้ แต่ความจริงแผนที่สำคัญที่สุด ถ้าแผนที่ละเอียดจะใช้งานได้มาก ถ้าแผนที่ไม่ละเอียด ต่อให้มีสัญญาณแค่ไหนก็ไม่สามารถหาเส้นทางได้” เจ้าของเว็บมาสเตอร์กล่าว




ทุก วันนี้มีตัวรับสัญญาณจีพีเอส ในตัวโดยใช้ชิพแบบ เซิฟสตาร์ ทำให้การรับสัญญาณต่างๆ ทำได้ค่อนข้างไวมาก แม้แต่การรับสัญญาณวางไว้ที่หน้ากระจกรถยนต์ก็สามารถรับได้ดี จาการทดสอบเกี่ยวกับเรื่องจีพีเอสสามารถนำทางได้แม่นยำถูกต้องพร้อมกับ เสียงบอกทาง อย่างไรก็ตามเพื่อประสิทธิภาพของการใช้งานอย่างไม่หยุดยั้ง ยังมีการ update ข้อมูลตลอดเวลา ทำให้ผู้ใช้จีพีเอส มีข้อมูลแผนที่ที่ทันสมัย มีความสมบูรณ์ของข้อมูล ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์การแข่งขันในตลาดจีพีเอสจะเพิ่มสูงขึ้นเพียงใดก็ตาม ยืนยันว่าแต่ละบริษัทต่างมีจุดแข็งที่ทัดเทียมคู่แข่งในตลาดอย่างแน่นอน

และ นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักเดินทางที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อความประหยัดเวลา และพลังงาน ที่ต้องสูญเสียไปกับการหลงทางที่ไม่จำเป็น แต่ถึงอย่างไร การเลือกอุปกรณ์ดังกล่าวก็ควรศึกษาถึงคุณสมบัติและความต้องการใช้งานก่อน เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่า เพราะไม่ใช่แค่เพียงช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้ใช้จ่ายส่วนตัวแล้ว ยังเป็นการช่วยชาติประหยัดพลังงานอีกด้วย...

ขอบคุณบทความจาก www.mrpalm.com